คุณควรจะได้รับเงินเท่าไรในปัจจุบัน?
ด้วยมูลค่าหุ้นที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน สามารถที่จะอธิบายได้ทันทีเลยว่าทำไมผู้ก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหารองค์กรยักษ์อย่างเจ็ฟ แบซอส จึงถูกประเมินว่ามีมูลค่าทรัพย์สินรวมกันทั้งสิ้นในเวลานี้กว่าเก้าหมื่นล้านเหรียญสหรัฐเข้าไปแล้ว!
แล้วถ้าสมมติว่าคุณได้ซื้อหุ้นแอมะซอนก่อนหน้านั้น, เอาตั้งแต่วันที่เริ่มเปิดตัวเลยล่ะกันคือปี 1997, หรือราวๆสักสิบกว่าปีที่แล้ว, คุณก็น่าจะได้รับมูลค่าผลตอบแทนจากการลงทุนในครั้งนั้นเป็นจำนวนเงินไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ใช่หรือไม่
และความเป็นจริงก็คือ, หากคุณได้เคยซื้อหุ้นแอมะซอนสัก 1,000 เหรียญสหรัฐหรือราวๆ 32,000 บาทเมื่อสักสิบปีที่แล้ว, สมมติว่าปี 2007 ก็แล้วกัน, มูลค่าการลงทุนที่คุณควรจะได้รับในปีปัจจุบันนี้ก็ควรจะเป็นที่ 12,398 เหรียญหรือราวๆ 396,736 บาทนั่นเอง, ตามสูตรการประเมินมูลค่าหุ้นของอุตสาหกรรมสหรัฐ
ถ้าดูตามภาพ infographic จากเว็บไซด์ทางการเงินที่มีชื่อว่า How Much, ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบหามูลค่าหุ้นของบริษัทต่างๆเมื่อปี 2007 กับปีปัจจุบันด้วยจำนวนเงินลงทุนที่เท่ากันที่ 1,000 เหรียญสหรัฐกับมูลค่าที่คุณควรจะได้รับในปีปัจจุบันและเห็นได้ว่าผลประกอบการของแอมะซอนมาเป็นอันดับสองรองจากความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ Netflix นั่นเอง
วงกลมสีน้ำเงินจะหมายถึงจำนวนเงินที่คุณได้ลงทุนไป 1,000 เหรียญในช่วงแรกและวงกลมสีชมพูจะเทียบเท่ากับมูลค่าผลตอบแทนที่คุณควรจะได้รับในปีปัจจุบันนั่นเอง
“หากว่าสีชมพูเล็กกว่าสีน้ำเงิน, นั่นก็หมายถึงว่าคุณขาดทุนแล้วล่ะ, ทั้งนี้อยู่บนสมมติฐานที่ว่าคุณได้รับผลตอบแทนเป็นเงินสดน่ะและไม่มีการกลับเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มอีกแต่อย่างใด”
"ยิ่งวงกลมสีชมพูโตขึ้นมากเท่าใด, ผลตอบแทนที่คุณได้ลงทุนไป (1,000 เหรียญ) ก็จะมากยิ่งขึ้นไปเท่านั้น" ตามคำอธิบายของเว็บ How Much "หากว่าสีชมพูเล็กกว่าสีน้ำเงิน, นั่นก็หมายถึงว่าคุณขาดทุนแล้วล่ะ, ทั้งนี้อยู่บนสมมติฐานที่ว่าคุณได้รับผลตอบแทนเป็นเงินสดน่ะและไม่มีการกลับเข้าไปซื้อหุ้นเพิ่มอีกแต่อย่างใด"
ในขณะที่การลงทุนซื้อหุ้นเดี่ยวๆอย่าง Netflix, Amazon และ Apple กลับให้ผลตอบแทนได้ทั้งดีและก็ไม่ดี (over or under performance) หรือว่ามีความเสี่ยงนั่นเองและนั่นก็เป็นเหตุผลเดียวที่บรรดานักลงทุนที่มีประสพการณ์อย่าง Buffet, Mark Cuban และ Tony Robbins ต่างก็ลงความเห็นตรงกันว่าคุณควรที่จะเลือกลงทุนในกองทุนรวมจะดีกว่าเยอะเลย
เริ่มที่กองทุนอินเด็กซ์ (index funds) หน่อยเป็นไง, เป็นกองทุนที่รวมเอาสุดยอดหุ้นจาก S&P500 มาไว้รวมกันยกตัวอย่างเช่น หุ้น Apple, Microsoft และ Google เป็นต้น แถมยังมีข้อเสนอต่างๆที่น่าสนใจ อาทิ low turnover rates, attendant fees และรวมไปถึง tax bills อีกด้วย อย่างไรก็ดีถึงแม้ว่ากองทุนอินเด็กซ์จะออกแบบมาเพื่อช่วยขจัดความเสี่ยงจากการเลือกลงทุนในหุ้นตัวเดี่ยวๆลงแล้ว กองทุนเองก็มีขึ้นมีลงตามภาวะของตลาดที่ผันผวน (fluctuation market) ก็ขอให้นักลงทุนโปรดใช้ความระมัดระวังในการเลือกลงทุนด้วยก็แล้วกัน/
Credit : https://www.cnbc.com/2017/11/28/if-you-put-1000-in-amazon-10-years-ago-heres-what-youd-have-now.html
เจ็ฟ เบซอส ครั้งหนึ่งเขาเคยเกลียดและกลัวการใช้จ่ายเงินไปกับการโฆษณาเป็นอย่างมากแต่มาวันนี้เขาได้บอกกับพนักงานแอมะซอนทุกคนว่า 'เขาได้เปลี่ยนใจแล้วล่ะ'
https://timeline.line.me/post/_deSweeRLeVhsOkRLXzAnXwbWRtxAUE9zmU-Q1FM/1154930366902033631
เจ็ฟ เบซอส CEO แอมะซอนตัดสินใจแยกทางเดินกับ MacKenzie ภรรยาคู่ชีวิตของเขาที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันมากว่า 25 ปี!
https://timeline.line.me/post/_deSweeRLeVhsOkRLXzAnXwbWRtxAUE9zmU-Q1FM/1154709984502034562
เหตุผลหลักที่แอมะซอนตัดสินใจลงทุนจำนวน 200 ล้านเหรียญสหรัฐกับสตาร์ทอัพเล็กๆสัญชาติอิสราเอลที่ชื่อว่า CloudEndure เพื่อจัดการระบบแบ็คอัพข้อมูล AWS เสียใหม่
https://timeline.line.me/post/_deSweeRLeVhsOkRLXzAnXwbWRtxAUE9zmU-Q1FM/1154693388402036085
เหตุผลหลัก 5 ประการที่ทำให้แอมะซอนพลิกกลับมาเอาชนะไมโครซอฟท์และทำให้เจฟ เบซอส CEO พลิกกลับมาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของโลกอีกครั้ง (ตอนแรก)
https://timeline.line.me/post/_deSweeRLeVhsOkRLXzAnXwbWRtxAUE9zmU-Q1FM/1154692134202033629
เหตุผลหลัก 5 ประการที่ทำให้แอมะซอนพลิกกลับมาเอาชนะไมโครซอฟท์และทำให้เจฟ เบซอส CEO พลิกกลับมาเป็นบุคคลที่รวยที่สุดของโลกอีกครั้ง (ตอนจบ) https://timeline.line.me/post/_deSweeRLeVhsOkRLXzAnXwbWRtxAUE9zmU-Q1FM/1154701018302031822
Comments